โฆษกกองทัพยูเครนภาคตะวันออกเปิดเผยว่า ขณะนี้ กองกำลังทหารรัสเซียมากกว่า 180,000 นาย ได้ถูกส่งไปยัง 2 แนวรบสำคัญทางภาคตะวันออกของยูเครนแล้วโดยทหารราว 120,000 นายถูกส่งเข้าสู่สนามรบในพื้นที่ระหว่างเมืองคูเปียนสก์และเมืองลีแมน ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 100 กิโลเมตร ส่วนที่เหลืออีกกว่า 50,000 นาย ได้ถูกส่งไปยังเมืองบัคมุต ซึ่งอยู่ทางใต้ของทั้ง 2 เมืองดังกล่าว

โดยความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเป็นการระดมกำลังจากหน่วยต่าง ๆ ที่มีสมรรถนะสูง ทั้งหน่วยเคลื่อนที่ทางอากาศ หน่วยทหารราบยานเกราะ กำลังพลสำรองเพื่อการต่อสู้ หน่วยรักษาดินแดน และกองร้อย “สตอร์ม ซี” ซึ่งยูเครนเชื่อว่ากำลังพลส่วนใหญ่เป็นอาชญากรที่เคยต้องถูกจำคุกมาแล้วคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ทหารรัสเซียถูกตัดสินจำคุก 7 ปี ข้อหาหนีทัพถึง 2 ครั้ง

รัสเซียส่งโดรนพลีชีพถล่มยูเครน แนวรบเมืองบัคมุตยังดุเดือด

ส่วน พลเอก โอเล็กซานเดอร์ เซียร์สกี ผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นดินยูเครน เปิดเผยว่ากองทัพรัสเซียพยายามเคลื่อนย้ายกำลังเข้าสู่พื้นที่ที่เอื้อต่อการโจมตีทหารยูเครน โดยต้องการสร้างความสูญเสียและขัดขวางการส่งกำลังสนับสนุน

โดยเซียร์สกีระบุว่าขณะนี้รัสเซียกำลังดิ้นรนอย่างหนักเพื่อปกป้องฐานที่มั่น ที่เคยอยู่ภายใต้การควบคุมของแวกเนอร์กรุ๊ป

เช่นเดียวกับ นาง ฮานนา มัลยาร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครนที่เปิดเผยว่าวถานการณ์ในชณะนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยการควบคุมหรือสูญเสียที่มั่นอาตเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาห่างกันไม่กี่วัน

เช่นเดียวกับ นาง ฮานนา มัลยาร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครนที่เปิดเผยว่าสถานการณ์ในขณะนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยการควบคุมหรือสูญเสียที่มั่นอาจเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาห่างกันเพียงไม่กี่วัน

ขณะที่ นายกรัฐมนตรี โอลาฟ ชอลซ์ ผู้นำเยอรมนีได้ชี้แจงถึงสาเหตุที่ต้องปฏิเสธการมอบขีปนาวุธระยะไกลเพื่อช่วยเหลือยูเครน โดยยืนยันว่าได้พิจารณาทุกข้อเรียกร้องที่ได้รับ แต่รัฐบาลเยอรมนีมีจุดยืนที่ไม่ต้องการให้อาวุธที่ส่งไปถูกนำไปใช้เพื่อโจมตีพื้นที่ในอาณาเขตของรัสเซีย เพราะอาจเป็นการยกระดับความขัดแย้ง

โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือน พ.ค. ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเนสกี ผู้นำยูเครน ได้เดินทางเยือนกรุงเบอร์ลิน และ ร้องขอรัฐบาลเยอรมนีจัดส่งขีปนาวุธระยะใกล้พิสัยทำการ 500 กิโลเมตรเพื่อต่อสู้กับรัสเซีย

โดยในการแถลงข่าวประจำวันเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ประธานาธิบดี เซเลนสกี ย้ำว่าการป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงเนื่องจากระบบต่างๆที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ทุกพื้นที่ของประเทศปลอดภัยจากการโจมตีของรัสเซียได้