ตลาดการเงินจับตาโหวตเลือกนายกของไทย ปัจจัยตปท.ประชุมธนาคารกลางหลายแห่ง
“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” รายงานเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาแข็งค่าผ่านแนว 34.00 บาทต่อดอลลาร์ไปแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือนที่ 33.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะลดช่วงบวกและอ่อนค่ากลับมาบางส่วนปลายสัปดาห์ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับสกุลเงินเอเชียและการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก
ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ถูกกดดันในช่วงแรกจากการคาดการณ์ว่า แม้เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม FOMC วันที่ 25-26 ก.ค. นี้ แต่ก็อาจจะเป็นการปรับขึ้นครั้งสุดท้ายของวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นรอบนี้ นอกจากนี้เงินบาทยังมีแรงหนุนจากสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของต่างชาติ ขณะที่นักลงทุนตอบรับการเดินหน้าของกระบวนการด้านการเมือง
อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงบวกลงบางส่วนปลายสัปดาห์ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวขึ้นตามบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ โดยมีแรงหนุนจากตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลงมากกว่าที่คาดแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ในวันศุกร์ที่ 21 ก.ค. 2566 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 34.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ (หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือนที่ 33.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ ระหว่างสัปดาห์) เทียบกับ 34.63 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ในวันศุกร์ก่อนหน้า (14 ก.ค.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 17-21 ก.คคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 2566 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 17.3 ล้านบาท แต่มีสถานะ Net Inflows ในตลาดพันธบัตรไทย 14,667 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 20,015 ล้านบาท หักด้วยตราสารหนี้ที่หมดอายุ 5,348 ล้านบาท)
สัปดาห
ถัดไป (24-28 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 33.80-34.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมเฟด (25-26 ก.ค.) ECB (27 ก.ค.) และ BOJ (27-28 ก.ค.) สถานการณ์การเมืองไทย และสัญญาณเงินทุนต่างชาติ
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ค. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก PCE/Core PCE Price Indices เดือนมิ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/66 (adv.) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI เดือนก.ค. (เบื้องต้น) ของญี่ปุ่น ยูโรโซน อังกฤษ และสหรัฐฯ ผลการประชุมธนาคารกลางอินโดนีเซีย และตัวเลขกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. ของจีนด้วยเช่นกัน