ค่าเงินบาทวันนี้ 35.25 บาท ตลาดการเงินเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 22 มิ.ย.65 ที่ระดับ 35.25 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.32 บาทต่อดอลลาร์ โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.20-35.45 บาทต่อดอลลาร์คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ทั้งนี้ผู้เล่นในตลาดการเงินเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น โดยในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐ แรงซื้อหุ้นเทคฯ รวมถึงหุ้นสไตล์ Growth ที่ปรับตัวลงแรงในสัปดาห์ที่ผ่านมา อาทิ Tesla +9.4%, Alphabet (Google) +4.1%, Apple +3.3% ได้ช่วยหนุนให้ ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq พุ่งขึ้น +2.51% เช่นเดียวกันกับ ดัชนี S&P500 ที่ปรับตัวขึ้นราว +2.45%
นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานตามการรีบาวด์ของราคาน้ำมันและการปรับมุมมองการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดีขึ้นของนักวิเคราะห์ อาทิ Exxon Mobil +6.2%, Chevron +4.2% ก็ได้ช่วยหนุนการรีบาวด์ของตลาดหุ้นสหรัฐ ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ของยุโรป เดินหน้าปรับตัวขึ้นราว +0.35% หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นเทคฯ รวมถึงหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย อาทิ ASML +2.7%, Adyen +2.2%, Dior +2.1%
สำหรับวันนี้ ตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลัก โดยในฝั่งของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด นั้น ผู้เล่นในตลาดจะจับตาการแถลงต่อสภาคองเกรสของประธานเฟด (Powell’s Testimony) โดยเฉพาะผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ จากนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นของเฟดคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
รวมถึงความจำเป็นหรือโอกาสที่เฟดจะต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงเพื่อควบคุมปัญหาเงินเฟ้อ หลังจากที่ ผู้เล่นในตลาดกลับมากังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ อาจชะลอลงหนักและเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ หากเฟดสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ตาม Dot Plot ล่าสุด
ส่วนในฝั่งไทย นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่า ดุลการค้าในเดือนพฤษภาคมอาจขาดดุลราว -1.5 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากต้นทุนสินค้าที่สูงขึ้นและปัญหาเงินบาทอ่อนค่าจะยิ่งหนุนให้ยอดการนำเข้าโตกว่า +18% ในขณะที่ยอดการส่งออกอาจโตเพียง +8%
ขณะที่แนวโน้มค่าเงินบาท มองว่า แม้เงินบาทจะพอได้แรงหนุนในฝั่งแข็งค่า ตามภาพตลาดการเงินที่ทยอยกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น แต่โดยรวมเงินบาทยังคงมีแนวโน้มผันผวนและมีโอกาสอ่อนค่าในช่วงระหว่างวันไปทดสอบโซนแนวต้านแถว 35.40 บาทต่อดอลลาร์อีกครั้งได้ โดยแรงกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่านั้น ยังคงมาจากแรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ โดยล่าสุด นักลงทุนต่างชาติได้ขายสุทธิหุ้นและบอนด์ไทยรวมกันกว่า -7.1 พันล้านบาท ซึ่งประเมินว่า ความผันผวนของฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติจะมีส่วนทำให้เงินบาทยังมีโอกาสผันผวนในฝั่งอ่อนค่าต่อได้ในช่วงนี้
นอกจากนี้ ยังต้องระมัดระวังความผันผวนจากเงินดอลลาร์ในช่วงระหว่างตลาดรับรู้ถ้อยแถลงของประธานเฟดต่อสภาคองเกรส ซึ่งหากประธานเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดจำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงต่อเนื่อง หรือ แสดงความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัวมากขึ้น ก็อาจกดดันให้เงินดอลลาร์ย่อตัวลงได้บ้าง
ทั้งนี้การทยอยปรับลดสถานะถือครองเงินดอลลาร์ของผู้เล่นในตลาด (Net Long USD positions) แม้ว่าเงินดอลลาร์จะปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในช่วงที่ผ่านมา อาจสะท้อนว่า ผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่ได้มองว่าเงินดอลลาร์จะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องไปได้มาก และเริ่มมีการทยอยขายทำกำไร ทำให้เรามองว่า เงินดอลลาร์จะเริ่มกลับตัวเป็นขาลงได้ หากเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณเดินหน้าเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรง หรือ จุด Peak Hawkishness ของเฟดได้มาถึงแล้ว ซึ่งเราคาดว่าอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงการประชุมเฟดเดือนกรกฎาคม
อนึ่ง ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูง แนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ ใช้ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน